30 ביולי 2020
ตลาดหลักทรัพย์ไทย ขาดปัจจัยบวก แรงขายที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มนำ แม้จะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มอิเลคโทรนิค ดัชนีตลาดปิดที่ 1,338.35 จุด ปรับลดลง 2.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,326 จุด สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธ (29/7) ปิดตลาดในแดนบวก หลังธนาคารกลางสหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายใกล้ศูนย์ และตลาดได้รับแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆหลุดแนวรับของเส้น MMA2 ที่ 1,343 – 1,352 จุด ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ดัชนีตลาดปรับตัวลงแบบมีช่องว่าง (Breakaway gap) หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,382 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,326 จุด และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,312 – 1,306 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการปรับตัวลงต่อหากดัชนีไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,326 จุด จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น i) ที่ 1,454 จุด และกำลังปรับลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,269 จุด และมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคลื่น ii) โดยดัชนีต้องปรับลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่ 969 (ตามหลักการนับคลื่น) ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,380 จุด และมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,326 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,350 – 1,362 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,326 – 1,314 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity