วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 2 กรกฏาคม 2564

מעודכן
การแพร่ระบายของไวรัสสายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก หนุนทองคำปรับบวก 5.2 ดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวานนี้ปิดตลาดปรับเพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ +0.29% ปิดตลาดที่ระดับ 1,776.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ทองคำปรับตัวขึ้นจากความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งเป็นเชื้อที่มีการติดที่รุนแรงและรวดเร็วกว่าชนิดอื่นๆ ทำให้นักลงทุนต่างเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพิ่มขึ้น จึงเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำวานนี้ปรับตัวขึ้นจากแนวรับด้านล่างได้อีกครั้ง

ทั้งนี้การปรับขึ้นของทองคำก็ยังเป็นไปได้อย่างจำกัด เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ก็ยังเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำเอาไว้เช่นกัน จากความกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟดเอง และการเข้าซื้อเก็บดอลลาร์จากวิกฤตการแพร่ระบายไวรัส ซึ่งดอลลาร์ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน ทำให้ดอลลาร์วานนี้ปิดบวก +0.175 (+0.19%) ปิดที่ระดับ 92.532 แต่ทองคำก็ยังได้รับแรงหนุนมาจากการอ่อนค่าของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวอ่อนลงสู่ระดับ 1.4590 หรือ =0.0120 (=0.82%) หลังกรรมการเฟดบางส่วนออกมาขานรับถึงการปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ทั้งนี้ก็ต้องติดตามรายงานเศรษฐกิจสำคัญในค่ำคืนนี้เพื่อติดตามการตัดสินใจของเฟดต่อข้อมูลดังกล่าวในการนำไปซึ่งพิจารณาการปรับอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ลงในอนาคตอันใกล้นี้ จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนยังเฝ้าติดตามและระมัดระวังในการเข้าซื้อขายทองคำในระยะนี้

ทั้งนี้แม้ความผันผวนของราคาทองคำจะมีอยู่ แต่เมื่อราคาทองคำปรับสู่แนวรับสำคัญต่างๆ ก็มักจะมีแรงเข้าซื้อเพื่อเข้าเก็งกำไรระยะสั้นอยู่เสมอ นักลงทุนจึงสามารถมองหาโอกาสในการเข้าทำกำไรในช่วงสั้นๆ ได้เช่นกัน และให้ระมัดระวังแนวต้านสำคัญๆ ต่างๆ ที่มักจะมีการเทขายทำกำไรกันออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การพิจารณาเข้าถือครองคำสั่งซื้อฝั่ง Long นั้น ควรระมัดระวังเอาไว้ก่อน เนื่องจากทองคำเองยังไม่สามารถขยับราคาขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในเวลา จึงควรรอโอกาสดังกล่าว เพราะหากทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมานั้นส่งผลด้านลบต่อราคาทองคำ ก็จะทำให้ทองคำปรับร่วงลงได้อีกรอบหนึ่ง แนะนำให้นักลงทุนปรับลดการถือครองฝั่ง Long ในระยะกลางและยาวออกไปก่อน ควรเน้นการทำกำไรระยะสั้นในวันเท่านั้น

วันนี้นักลงทุนเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรหรือ NFP ในเวลา 19:30 น.ตามเวลาประเทศไทย นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ว่าจะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 706,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.6% ในเดือนมิ.ย. รายงานตัวเลขดังกล่าวจะเป็นผลสะท้อนต่อราคาทองคำโดยตรงหากตัวเลขออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้นั้นก็จะส่งผลเชิงบวกต่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐ แต่หากต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ก็จะส่งผลเชิงบวกต่อทองคำเช่นกัน จึงควรเฝ้าติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ยังไม่เข้าใจในปัจจัยพื้นฐานดังกล่าว โดยอาศัยเพียงทางด้านเทคนิคคอลในการเทรดทำกำไรนั้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเข้าทำการซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยต่อพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนเอง

ประเมินทางเทคนิควันนี้
เช้านี้ทองคำยังปรับตัวขึ้นทดสอบระดับแนวต้าน 1,780-1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถขี้นทดสอบและทรงตัวได้ที่บริเวณแนวต้านดังกล่าวอาจมีโอกาสที่จะมี่แรงซื้อเข้ามาหนุนทำให้ราคาทองคำหลุดแนวต้าน 1,780-1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เช่นกัน แต่หากแรงซื้อยังมีจำกัด ก็จะส่งผลให้เกิดการเทขายทองคำเพื่อทำกำไรระยะสั้นได้จากบริเวณดังกล่าว ประเมินแนวรับไว้ที่ระดับ 1,770-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้รอการทดสอบที่แนวต้านดังกล่าวก่อน หากไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้นั้น ก็อาจหาโอกาสเข้าทำการขายทองคำจากบริเวณด้งกล่าวได้เช่นกัน สำหรับใครที่ยังไม่มี Position ในพอร์ตก็อาจรอให้ทองคำปรับย่อตัวลงมาแนวรับบริเวณ 1,768-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์เสียก่อน แล้วค่อยมองหาโอกาสในกาเข้าทำการซื้อทองคำจากแนวบริเวณดังกล่าวได้

กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,768-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยให้เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1,780-1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,780-1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,768-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H :Hold
-----------------------------------------
4H :Down trend
-----------------------------------------
DAY :Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------

แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,770 / 1,767 / 1,763
---------------------------------------------------
Resistance : 1,782 / 1,791 / 1,795
---------------------------------------------------

สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ปรับลดการถือครองลง -2.62 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,776.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,043.16 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 1 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -2.62 ตัน

*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%

הערה
ทองคำช่วงเช้ายังแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,774-1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงซื้อเข้ามาหนุนจากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่กำลังระบาดหนักในเวลานี้ ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และองค์กรอนามัยโลกหรือ WHO ได้ออกมาเตือนสหภาพยุโรปที่กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงของการระบาดครั้งใหญ่ในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ โดยสายพันธ์เดลต้ามีผู้ติดเชื่อสูงถึง 90% ของบรรดาผู้ติดเชื้อทั้งหมดในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วกว่า 10% เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและปล่อยให้มีการเดินทางข้ามพรมแดนกันมากขึ้น เจ้าไวรัสดังกล่าวกำลังสร้างความกังวลหนักว่าหลายๆ ประเทศอาจต้องกลับมา Lock down ประเทศกันอีกครั้งหากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดดังกล่าวได้ ทำให้มีแรงซื้อวิ่งเข้าหาสกุลเงินดอลลาร์และทองคำที่เรียกว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยชั้นดียามวิกฤตเช่นนี้เกิดขึ้น แม้ดอลลาร์จะแข็งค่าแต่เราก็มองเห็นการปรับตัวขึั้นของทองคำเช่นกัน เนื่องจากสาเหตุดังกล่าว แต่ก็ยังเป็นการปรับขึ้นในระดับจำกัด จึงไม่ควรเน้นการลงทุนโดยการเช้าซื้อทองคำมากจนเกินไปในเวลานี้ ควรแบ่งสัดส่วนการลงทุนที่เน้นการทำกำไรระยะสั้นออกมาก่อน ประเมินหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้น้ั้น ก็จะมีการเทขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง เมื่อราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านในบริเวณดังกล่าว สำหรับกรอบแนวรับด้านล่างเราประเมินที่ระดับ 1,767-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (แนวรับระยะสั้น)
FibonacciGoldgoldanalysisSupport and ResistanceTrend AnalysisXAUUSDxpowerteam

גם על:

כתב ויתור