ทองคำหลังจากมีการปรับตัวลงตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ หลังจากที่แบงก์ชาติจีนประกาศอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาด
รวมไปถึงการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐฯที่ออกมาเป็นบวก ทำให้เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้มีการปรับตัวลง
แต่อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงมาในเชิงเทคนิค ราคายังคงปรับตัวอยู่บริเวณโซนแนวรับที่ 1553 - 1535 โดยประมาณ
และมีการรีบาวน์กลับขึ้นไปในช่วงวันสุดท้ายของสัปดาห์กลับไปที่ระดับ 1570 โดยประมาณ
การปรับตัวขึ้นมาในช่วงปลายสัปดาห์นั้น ส่งผลให้มีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบบริเวณโซนแนวต้านด้านบนได้แถวๆ 1590 - 1600 โดยประมาณ
และต้องมาลุ้นอีกทีว่าจะผ่านหรือไม่
เนื่องจากปัจจัยหนุนตอนนี้ คาดว่าน่าจะมีเพียงในเรื่องของความกังวลเกี่ยวกับการแพร่เชื้อของไวรัสโคโรน่า
โดย FED มีความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้สร้างความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
แม้รายงานระยะนี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนและยุโรปเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่เชื้อไวรัสอาจทำให้เกิดภาวะชะงักงันในจีน ซึ่งจะกระทบต่อไปยังเศรษฐกิจอื่นๆของโลก
ส่วนปัจจัยที่กดดันราคาอยู่ตอนนี้จะเป็นในเรื่องภาพรวมของดอลลาร์ที่ยังคงแข็งแกร่ง
ทางด้านของ FED เองกล่าวว่า นโยบายการเงินมีความเหมาะสม ขณะความเสี่ยงในช่วงขาลงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐได้ลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว
ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าได้เบาบางลง และการขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศส่งสัญญาณมีเสถียรภาพ ขณะที่สภาวะการเงินได้ผ่อนคลายลง
นอกจากนี้ทางด้านจีนยังจะปรับลดภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์
จะเห็นว่าจากปัจจัยทั้งหมด อาจจทำให้การปรับตัวขึ้นไปทดสอบ High ที่แถวๆ 1590 - 1600 นั้นอาจจะยังไม่ผ่านไปได้ง่าย เนื่องจากปัจจัยที่กดดันนั้นก็มีนัยสำคัญต่อตลาดเช่นกัน
ดังนั้นหากการปรับตัวขึ้นไปในสัปดาห์หน้า ยังไม่สามารถเบรค 1590 - 1600 ไปได้ก็มีโอกาสที่จะปรับตัว Sideway ออกข้างไปได้ โดยมีกรอบ Sideway กว้างๆอยู่ที่ 1590 - 1535 โดยประมาณ
รวมไปถึงการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐฯที่ออกมาเป็นบวก ทำให้เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้มีการปรับตัวลง
แต่อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงมาในเชิงเทคนิค ราคายังคงปรับตัวอยู่บริเวณโซนแนวรับที่ 1553 - 1535 โดยประมาณ
และมีการรีบาวน์กลับขึ้นไปในช่วงวันสุดท้ายของสัปดาห์กลับไปที่ระดับ 1570 โดยประมาณ
การปรับตัวขึ้นมาในช่วงปลายสัปดาห์นั้น ส่งผลให้มีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบบริเวณโซนแนวต้านด้านบนได้แถวๆ 1590 - 1600 โดยประมาณ
และต้องมาลุ้นอีกทีว่าจะผ่านหรือไม่
เนื่องจากปัจจัยหนุนตอนนี้ คาดว่าน่าจะมีเพียงในเรื่องของความกังวลเกี่ยวกับการแพร่เชื้อของไวรัสโคโรน่า
โดย FED มีความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้สร้างความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
แม้รายงานระยะนี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนและยุโรปเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่เชื้อไวรัสอาจทำให้เกิดภาวะชะงักงันในจีน ซึ่งจะกระทบต่อไปยังเศรษฐกิจอื่นๆของโลก
ส่วนปัจจัยที่กดดันราคาอยู่ตอนนี้จะเป็นในเรื่องภาพรวมของดอลลาร์ที่ยังคงแข็งแกร่ง
ทางด้านของ FED เองกล่าวว่า นโยบายการเงินมีความเหมาะสม ขณะความเสี่ยงในช่วงขาลงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐได้ลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว
ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าได้เบาบางลง และการขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศส่งสัญญาณมีเสถียรภาพ ขณะที่สภาวะการเงินได้ผ่อนคลายลง
นอกจากนี้ทางด้านจีนยังจะปรับลดภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์
จะเห็นว่าจากปัจจัยทั้งหมด อาจจทำให้การปรับตัวขึ้นไปทดสอบ High ที่แถวๆ 1590 - 1600 นั้นอาจจะยังไม่ผ่านไปได้ง่าย เนื่องจากปัจจัยที่กดดันนั้นก็มีนัยสำคัญต่อตลาดเช่นกัน
ดังนั้นหากการปรับตัวขึ้นไปในสัปดาห์หน้า ยังไม่สามารถเบรค 1590 - 1600 ไปได้ก็มีโอกาสที่จะปรับตัว Sideway ออกข้างไปได้ โดยมีกรอบ Sideway กว้างๆอยู่ที่ 1590 - 1535 โดยประมาณ